“ซ่อนกลิ่น เดอะมิวสิคัล พัพเพทโชว์ 4D” มิติใหม่ของนาฏกรรมการแสดงหุ่นกระบอกไทยร่วมสมัย
จากเรื่องราวลี้ลับสู่โครงการการเผยแพร่การแสดงหุ่นกระบอกร่วมสมัยเรื่อง “ซ่อนกลิ่น เดอะมิวสิคัล พัพเพทโชว์ 4D” ที่เคยสร้างความตื่นเต้นและสนุกสนานมาแล้วในปี พ.ศ. 2563 เรื่องราวของการพลัดพรากของชีวิต ซึ่งยังยึดติดกับรูปธรรมมนุษย์ที่ยากจะหลุดพ้น ได้กลับมาเผยแพร่สู่สาธารณชนอีกครั้ง ท่ามกลางบรรยากาศอันแสนวังเวงและเย็นยะเยือก ทั้งในรูปแบบการแสดงสดและรูปแบบภาพยนตร์สื่อหุ่นร่วมสมัย ที่สร้างความสนุกสนานและฉายมิติใหม่แห่งการแสดงหุ่นให้ยิ่งน่าจดจำ
นิเวศ แววสมณะ ผู้ก่อตั้งบ้านตุ๊กกะตุ่นหุ่นกระบอกไทย และผู้สร้างสรรค์เรียงร้อยเรื่องราวของซ่อนกลิ่น ตั้งใจให้นาฏกรรมหุ่นกระบอกผีไทยร่วมสมัยปลุกกระแสการชมหุ่นไทยมากยิ่งขึ้น และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว้างกว่าเดิม โดยดำเนินงานผ่านการแสดงสดและการแสดงในระบบภาพยนตร์ออนไลน์ในยุคที่การสื่อสารเปลี่ยนไปจากเดิม แต่ยังคงความงดงามด้านนาฏยศิลป์ไทยไว้ครบถ้วน
ซ่อนกลิ่น ได้จัดแสดงสดในวันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2564 ณ โรงมหรสพตุ๊กกะตุ่นสตูดิโอแอนเธียเตอร์ พร้อมเอฟเฟกต์การแสดงที่ออกแบบเป็นพิเศษ ชวนให้ผู้ชมคอยลุ้นไปกับโชคชะตาของตัวละคร มีผู้เข้าร่วมชมในโรงละคร 50 คน โดยรักษาระยะห่างตามประกาศขอความร่วมมือจากรัฐบาลในการควบคุมสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) พร้อมกับมีการเผยแพร่การแสดงระบบดิจิทัลผ่านแพลตฟอร์มทางเฟซบุ๊ก ระหว่างวันที่ 14–15 สิงหาคม พ.ศ. 2564 และเผยแพร่ภาพบันทึกการแสดงสดผ่านทางช่องยูทูบ Tookkatoon Thai Puppet Theatre
การสร้าง ซ่อนกลิ่น เป็นภาพยนตร์ออนไลน์ทำให้ผู้ชมจำนวนมากมีโอกาสเข้าถึงความบันเทิงของนาฏกรรมหุ่นที่ได้รับการพัฒนาให้มีความร่วมสมัย ทั้งเนื้อหา รูปแบบการนำเสนอ เทคนิคการแสดงที่สร้างสรรค์ รวมถึงการนำเนื้อหาที่เต็มไปด้วยหลักธรรมทางพุทธศาสนามาตีความให้ผู้ชมทุกกลุ่มอายุสามารถเข้าใจได้ ทำให้การรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้มีมากกว่าความตื่นเต้นสนุกสนาน
นับเป็นการสร้างความแปลกใหม่แห่งวงการแสดงหุ่นร่วมสมัยไทย สู่ความเป็นวัฒนธรรมการแสดงมหรสพที่เป็นแบบอย่างในการพัฒนาสื่อมหรสพพื้นบ้าน เพื่อเกิดการต่อยอดภูมิปัญญาการสร้างสรรค์ศิลปะไทยสู่ชนรุ่นหลัง ช่วยเติมช่องว่างและประสานรอยต่อการสืบสานพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ด้วยศาสตร์และศิลป์แห่งความงดงามด้านศิลปะที่ก่อให้เกิดสุนทรียะ ซึ่งจะช่วยดำรงภูมิปัญญาอันเป็นมรดกของชาติให้ได้มีการต่อยอด พัฒนา และคงอยู่ต่อไป
