บุคลากรที่มีความรู้ การจัดเก็บข้อมูลอย่างเป็นระเบียบขั้นตอน และพลังเสียงที่เข้มแข็ง จะช่วยขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะด้านศิลปะ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรม ตามความต้องการที่แท้จริงของนักการละครได้
“โครงการพันธมิตรละครไทย ก้าวไปด้วยกัน” เกิดขึ้นจากความเชื่อมั่นดังกล่าว ภายใต้การทำงานของคณะทำงานจัดตั้งมูลนิธิละครไทย นำโดยเพียงดาว จริยะพันธุ์ ผู้หลงใหลและใช้ชีวิตอยู่กับละครเวทีตั้งแต่สมัยยังอยู่ในรั้วโรงเรียนมัธยม
“Intermission Talk” เป็นกิจกรรมการเสวนาออนไลน์ที่เหล่าคณะทำงานได้รวมตัวกันเพื่อแบ่งปันข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการพัฒนาการละคร และเพื่อสร้างเครือข่ายพันธมิตรละครไทยให้เข้มแข็ง บ่มเพาะนักการละครให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน
ระหว่างเดือนมีนาคม – มิถุนายน พ.ศ. 2564 ในวันเสาร์ของทุกสัปดาห์ บุคลากรในแต่ละสายงานของการละครได้มาพบปะพูดคุยผ่านช่องทางออนไลน์ รวมทั้งสิ้นกว่า 13 สายงาน ได้แก่ นักแสดง นักประพันธ์บทละคร ผู้กำกับเวที นักออกแบบเสื้อผ้า นักออกแบบเสียง นักออกแบบแสง นักออกแบบฉาก นักออกแบบหุ่นและอุปกรณ์ประกอบฉาก ช่างแต่งหน้าและทำผม ศิลปินละครเวทีขนบร่วมสมัย นักการละครประยุกต์ นักการละครเยาวชน และผู้กำกับการแสดง
เมื่อการเสวนาในทุกสายงานและการอบรมนักบริหารจัดการละครเวทีรุ่นใหม่เสร็จสิ้น ก็มีการจัดกิจกรรมอบรมนักจัดการละครเวที “Theatre Management Workshop” อันเป็นสายงานที่ขาดแคลนอย่างหนักในประเทศไทย โดยใช้เวลาทั้งหมด 3 เดือน ในการอบรมทั้งสิ้น 12 บทเรียน จาก 11 วิทยากร ที่ครอบคลุมเนื้อหาทุกด้านที่จำเป็นกับการจัดละครเวที ต่อด้วยการจัดประชุมระดับชาติ “Thai Theatre Party: Unity and Resilience” ผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อให้นักการละครทุกสายงานมีโอกาสได้พบปะกัน เป็นการเสริมสร้างความเข้มแข็งของพันธมิตรละครไทย กลุ่มนักบริหารจัดการละครเวทีรุ่นใหม่ได้ใช้โอกาสนี้ในการพบปะนักการละครแขนงต่าง ๆ นำไปสู่การผลิตงานอย่างเป็นระบบในอนาคตเพราะเชื่อว่าศิลปะเป็นเครื่องมือที่สร้างความเปลี่ยนแปลงทั้งระดับบุคคลและสังคมวงกว้าง รวมทั้งการรวมตัวกันเพื่อสร้างเครือข่ายนั้นสำคัญอย่างยิ่งในการแก้ปัญหาในระดับมหภาค เครือข่ายภาคประชาสังคมที่เข้มแข็งจะเป็นฐานที่แข็งแรง และทำให้ภาครัฐช่วยขับเคลื่อนนโยบายศิลปะระดับชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพ การทำงานของคณะทำงานจัดตั้งมูลนิธิละครไทยในครั้งนี้จึงเปรียบเสมือนการต่อฟันเฟืองเล็ก ๆ ที่ช่วยกันสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืนให้แก่วงการละครเวทีไทยร่วมสมัย