จากกระแสการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ การลักลอบตัดไม้ทำลายป่า ซึ่งส่งผลย้อนกลับมาทำร้ายมนุษย์มากขึ้นในทุกวัน ได้กลายมาเป็นผลงานสร้างสรรค์ในคอลเล็กชั่น Fall/Winter 202 ในชื่อ “Dark Forest” ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากภาพยนตร์เรื่อง คนเลี้ยงช้าง ของหม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล โดยบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับผืนป่า สิ่งแวดล้อม และช้างไทย ผ่านเสื้อผ้าที่รังสรรค์จากกางเกงยีนเก่า เพิ่มรายละเอียดของการทอมือและลวดลายกราฟิกที่เต็มไปด้วยเรื่องราว
ล่าสุด รีนิมโปรเจค (Renim Project) ได้กลับมาอีกครั้งกับดีไซเนอร์คนเดิม “ทรงวุฒิ ทองทั่ว” และยังคงอยู่กับเรื่องราวของสิ่งแวดล้อมภายใต้โครงการ “พัฒนามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมเครื่องแต่งกายร่วมสมัยอย่างยั่งยืนสู่สากลโดยแบรนด์รีนิมโปรเจค (Renim Project)” คอลเล็กชั่นนี้นำเสนอเรื่องราวของท้องทะเลไทย ที่ไม่ใช่ด้านความสวยงามของแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ แต่เป็นเรื่องของความทรมานที่เหล่าสัตว์น้ำต้องเผชิญจากปัญหามลพิษทางทะเล
การจากไปของเหล่าสัตว์ทะเลที่บาดเจ็บหรือตายโดยมีสาเหตุเกี่ยวข้องกับขยะหรืออุปกรณ์จับสัตว์น้ำที่ถูกทิ้งในท้องทะเล ถ่ายทอดผ่านลายเส้นบนเสื้อผ้า 10 ชุด เทคนิคตัดปะเศษยีนให้ดูเหมือนตาข่ายแห รวมถึงการใช้โทนสีน้ำเงิน เป็นผลงานการสร้างสรรค์เสื้อผ้าร่วมสมัยอย่างยั่งยืนด้วยแรงบันดาลใจจากท้องทะเลไทย ผ่านกระบวนการนำผ้าเก่ากลับมาใช้ดัดแปลงใหม่ (Upcycle) ซึ่งเป็นการลดการทำลายธรรมชาติ ลดการสร้างขยะ และลดต้นทุนด้วยการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ใส่คุณค่าเข้าไป จึงช่วยเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจด้วยงานฝีมือของคนไทย และช่วยสร้างกระแสไทยนิยมไปสู่คนรุ่นใหม่ในการเลือกสวมใส่ผ้าไทยในชีวิตประจำวัน
แม้สุดท้ายทางโครงการไม่ได้โอกาสเข้าร่วมงานแฟชั่นโชว์ในต่างประเทศและจำเป็นต้องจัดแสดงแฟชั่นโชว์ทางแพลตฟอร์มออนไลน์แทน เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) แต่ผลงานในคอลเล็กชั่นนี้ก็ได้รับความสนใจจากกลุ่มคนทั้งในและต่างประเทศที่ชื่นชอบศิลปะแฟชั่นร่วมสมัยที่ผสมผสานระหว่างความเป็นวัฒนธรรมไทยกับแฟชั่นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสร้างความยั่งยืนให้กับโลกในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม แม้เราไม่อาจต้านทานกระแสการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติที่ยังคงดำเนินต่อไป แต่รีนิมโปรเจคได้ทำให้เราได้หวนคิดไปถึงความทรมานของเหล่าสัตว์น้ำที่ร่างกายถูกพันธนาการด้วยขยะทะเล และกลับมาใส่ใจในการผลิตหรือใช้สินค้าที่เป็นมิตรต่อโลกมากขึ้น